ข้อมูล “เกรียน ฟิคชั่น”

ถ้าใจ มันพีคถึงจุด
ถ้าฮอร์โมน มันสูบฉีดพลุ่งพล่าน
ถ้าใจมันกล้า ไม่เคยมีคำว่ากลัว
ถึงเวลาปลดปล่อยมันออกมา
ต้องมีสักครั้ง ที่ใครๆก็อยากทำอะไรที่ทุกคนต้องชาบู

สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
และ สตูดิโอคำม่วน
เตรียมปลดปล่อยความกล้ากับ บททดสอบของชีวิตวัยรุ่นในภาพยนตร์

กับ 4 หนุ่ม ที่จะมาเป็นตัวแทนความเมพ ของปี 2013
เฟียต,เจเจ, แจ๊ค และ ปลื้ม
ในฐานะตัวแทนของวัยรุ่นไทยยุคนี้
พร้อมนักแสดง อาร์ตตัวกลั่น
ตั๊ก บริบูรณ์ , กิ๊บซี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่,
โบ้ท เดอะเยอร์ส และ ป๋อมแป๋ม เทยเที่ยวไทย
ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ
ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เกรียนตัวพ่อ
18 เมษายนนี้

More Info

Loading……..

สิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตวัยรุ่น เพื่อน เพศตรงข้าม
อะไรห่ามๆ ที่ทำแล้วคนอื่นจะสนใจ
และสิ่งสุดท้ายที่นึกได้เมื่อสายเสมอ คือ การสอบ

เมื่อเด็ก ม.ต้น 4 คน เริ่มทำอะไรสนุกๆ ด้วยการถ่ายคลิปแล้วโพสตามกระแส Social Media ใน Youtube “เกรียนฟิคชั่น” จึงกลายเป็นช่องฮิต ติดอันดับ Top 5 ของนักเรียนทั้งโรงเรียน ทำให้ แก๊งเกรียน (ฟิคชั่น) อันประกอบด้วย ตี๋ (พันธดนย์ จันทร์เงิน), โอ๊ต (กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม), ม่อน (ปุริม รัตนเรืองวัฒนา) และโมน (กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา) เจ้าของรายการกลายเป็นคนสำคัญขึ้นมาทันที แต่พวกเขาก็รักษาสถานะ “Win” อยู่ได้ไม่นาน

เรื่องของเรื่องเกิดเมื่อ ตี๋ เกิด จับผลัดจับผลูได้ไปเป็นพระเอกละครเวทีประจำปี พร้อมกับเมฆดำแห่งความซวยครั้งใหญ่ของโรงเรียนได้ถือกำเนิดขึ้น อันนำความหายนะสุดพีคมาสู่ พลอยดาว (ลักษณ์นารา เปี้ยทา) หญิงตัวท๊อปดาวโรงเรียนที่ใครๆต่างหมายปอง จนเธออับอายหายไปจากโรงเรียนนานนับสัปดาห์ ถึงขั้นที่แก๊งเกรียนต้องถูกเนรเทศอัปเปหิออกจากชมรมและเกิดรอยช้ำดวงใหญ่ในใจของตี๋ โดยเฉพาะกับ อ.แดงต้อย (ป๋อมแป๋ม เทยเที่ยวไทย) ที่โกรธหัวฟัด จนถึงขั้นปรี๊ดแตกและมองพวกเกรียนเป็นเหมือนฝันร้ายของโรงเรียน

ถึงคราวที่พวกเขาต้องหาทางกู้ความมั่นใจ จาก กาก ให้กลายมาเป็น แก๊งเกรียน สุดเท่ที่ใครๆ ก็อยากมากระทืบ Like ไม่ใช่กระทืบไล่ และตาม Follow กันอีกครั้ง จน Ranking ค่อยๆ ไต่ระดับ สะสม Item สู่ระดับเมพ ขิงๆ โดยได้รับความช่วยเหลือจากรุ่นพี่และ อ.เสน่ห์ (ตั๊ก บริบูรณ์) อาจารย์สุดเนิร์ดที่ไม่รู้ว่าจะมาคอยช่วยหรือมาหลอกจีบ ทิพย์ (กิ๊บซี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่) พี่สาวของตี๋ ที่ตอนนี้เธอเองดันไปมีแฟนหนุ่มคนใหม่ เขตต์ (โบ้ท เดอะเยอร์ส) จนไม่สนใจน้องชาย

ใครว่าชีวิตวัยรุ่นมันจะง่ายดายขนาดน๊าน ทั้งจีบหญิง ง้อสาว แกล้งเพื่อน หวงพี่ แถมสอบปลายภาคที่ใกล้เข้ามาทุกที แก๊งเกรียน จะกลายเป็นแก๊งกาก หรือไม่ เอาใจช่วยพวกเข้าเหล่านี้ได้ใน เกรียน ฟิคชั่น

PLAYER

START

สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล แท็คทีม สตูดิโอคำม่วน สร้างภาพยนตร์ เกรียน ฟิคชั่น” หนังวัยรุ่น/ โรแมนติก/ คอมิดี้ นำโดยโปรดิวเซอร์สาวคนเก่ง จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ และผู้กำกับรุ่นใหม่ (มะเดี่ยว) ชูเกียรติ ศักดิ์ วีระกุล ซึ่งที่ผ่านมาผลงานของมะเดี่ยว ชูเกียรติ ล้วนแล้วแต่เป็นภาพยนตร์คุณภาพที่การันตีด้วยรางวัลจากสาขาภาพยนตร์มากมายทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ อาทิ คนผีปีศาจ, รักแห่งสยาม, 13 เกมสยอง หรือจะเป็นภาพยนตร์ล่าสุดที่ผ่านมา HOME ความรัก ความสุข ความทรงจำ และส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์แนวดารม่า หนังชีวิต ความรักหนักๆ จนเมื่อมาถึงภาพยนตร์ครั้งนี้ เขามีความตั้งใจที่อยากจะสร้างหนังวัยรุ่นยุค 2013 หรือที่หลายคนเรียกกันว่ายุค iOS

จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ โปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์เล่าถึงการสร้างภาพยนตร์วัยทีนและการดึงมะเดี่ยวกำกับภาพยนตร์ในครั้งนี้ว่า “จากการที่ได้ร่วมงานกับมะเดี่ยวมาหลายเรื่อง เราเริ่มเห็นลายเซ็นต์ของเขาชัดเจนขึ้นในหนังแต่ละเรื่อง เขามีความโดดเด่นในการบอกเล่าเรื่องราว ความลึกซึ้งของบท รวมถึงจุดเด่นของการกำกับการแสดง สามารถดึงการแสดงของนักแสดงออกมาได้แบบพอดิบพอดี ไม่เยอะไม่น้อยเกินไป แต่หนังที่มีองค์ประกอบทุกอย่างครบถ้วนแบบนี้ส่วนใหญ่จะจบท้ายด้วยการเป็นหนังดราม่าชั้นดีเรื่องหนึ่ง  เลยบอกเขาว่า จุดแข็งของเขาหากมารวมเข้ากับความสนุกสนานของชีวิตวัยรุ่น การบอกเล่าเรื่องราวของวัยทีนในยุคนี้ น่าจะผสมกันกลายเป็นหนังวัยรุ่นสนุกเรื่องนึงที่มีโอกาสจะเป็น มาสเตอร์พีซ ของเขาได้ จึงกลายเป็นโปรเจคต์ เกรียน ฟิคชั่น เรื่องนี้”

มะเดี่ยว ชูเกียรติ นิสัยการดูหนังส่วนตัวแล้ว ชอบดูหนังแนววัยรุ่นเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งแต่เด็กๆมะเดี่ยวจึงรับอิทธิพลจากหนังวัยรุ่นอย่าง เรื่อง ปลื้ม, น้ำเต้าหู้กับครูระเบียบ, กระโปรงบานขาสั้น โดยคิดว่าหนังวัยรุ่นมันเป็นบันทึกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง ในแต่ละยุคสมัยของตัวเอง พร้อมเล่าถึงที่มาของภายนตร์เรื่องนี้ว่า “ใช่ เราเติบโตมาพร้อมๆกับหนังไทยวัยรุ่นยุคของ พี่เอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทย แล้วเราก็ดูหนังวัยรุ่นมาตลอด ซึ่งแต่ละยุคแต่ละสมัยวัยรุ่นจะเปลี่ยนและแตกต่างกันไป เราจึงอยากทำหนังวัยรุ่น มันเหมือนเราได้บันทึกเรื่องราวความทรงจำวัยรุ่นยุค2013เอาไว้ในหนังของเรา เริ่มจากสิ่งที่วัยรุ่นสนใจ ไปจนถึงเรื่องวุ่นๆในวัยเด็ก ชีวิตของเด็กมัธยมปลายที่บางครั้งเรื่องเล็กๆสำหรับเด็กในวัยนั้นมันกลายเป็นเรื่องใหญ่มาก มันมีเรื่องราวสนุกสนานมากมาย และสำหรับ เกรียน ฟิคชั่น คือ บันทึกยุคสมัยในเด็กวัยรุ่นของยุคนี้นั่นเอง”

เกรียน ฟิคชั่น นับว่าเป็นผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 7 ของ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ที่มุ่งเน้นกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นบทภาพยนตร์ได้นั้น เขาต้องอาศัยจากประสบการณ์ตรง ทั้งที่เคยผ่านมา และที่เคยร่วมงานกับเหล่าวัยรุ่น โดยครั้งนี้เขายังดึงรุ่นน้องฝีมือดีจากรั้วนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ นิวรุจ ฑีฆะโภวรรณ ร่วมเขียนบทภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราววัยเกรียน ขยายมุมมองวัยรุ่นอย่างถึงแก่น ซึ่งมะเดี่ยว ชูเกียรติ เล่าถึงเรื่องราวที่นำเสนอว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องวัยรุ่นล้วนๆเลย หนังพูดถึงจิตวิญญาณของเด็ก เราเองก็ต้องทำตัวให้เด็กลง ต้องเข้าใจเด็ก ต้องปรับมุมมองหลายอย่างในโลกนี้ ทำการบ้านเยอะขึ้นพอสมควร ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนบทบันทึกของวัยรุ่นยุคนี้ที่ชอบทำกิจกรรมเยอะ และชอบแสดงตัวตน เราจะเห็นจากการประกวดหนังสั้น คลิป เต้น ต่างๆมากมาย แล้วทุกครั้งที่มีเวทีประกวดต่างๆ เราก็จะเห็นคนเข้าแถวต่อแถวกันยาวมาก เพราะ คนต้องการแสดงตัวตน ต้องการพื้นที่เพื่อจะบอกโลกว่าฉันอยู่ตรงนี้ ฉันมีความสามารถตรงนี้ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ทำง่าย เพราะมันมีทั้งยูทูป ทั้งอินเตอร์เน็ต ให้เด็กถ่ายคลิปลง จึงตอบโจทย์ว่าการพยายามที่จะมีตัวตนของน้องๆนำไปสู่สิ่งใดต่อสิ่งใด คิดว่าเด็กรุ่นนี้น่าจะอินน่าจะเข้าใจได้”

เพราะความเกรียนเกิดขึ้นได้กับทุกคน เกรียนเพราะอยากมีตัวตน เกรียนเพราะอยากให้คนมอง เกรียนเพราะกลัวคนจะไม่สนใจ โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่นที่จะสะท้อนความเกรียนได้อย่างชัดเจน มะเดี่ยว ชูเกียรติ จึงเล่าถึงความเกรียนในเวอร์ชั่นครั้งนี้ว่า “เกรียนมันเป็นเรื่องของคนที่ยืนยันการมีตัวตนเป็นของตัวเอง คือ การสร้างตัวตนที่แตกต่างหรือบอกกับโลกว่าเราอยู่ตรงนี้นะ เหมือนจะให้คนสนใจน่ะแหละ แต่เด็กกลุ่มนี้จะคิดแตกต่างแบบสร้างสรรค์ เพราะเขาชอบถ่ายคลิป ชอบทำหนังสั้น ชอบแสดงตัวตน คือสิ่งที่วัยรุ่นทุกคนต้องการให้ตัวเองนั้นปรากฏอยู่มีจุดยืน ณ จุดใดจุดหนึ่ง”

SELECT

ด้วยความตั้งใจของผู้กำกับ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ต้องการค้นหานักแสดงหน้าใหม่ ที่มีความสามารถทางการแสดงสูง ดังนั้นขบวนการแคสติ้งหานักแสดงจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และค่อนข้างใช้เวลานานเป็นหลายเดือนกว่าจะเจอคนถูกใจที่ เหมาะสมกับคาแร็คเตอร์ และต้องรู้สึกเชื่อว่าไอ้พวกนี้มันเกรียนจริงๆ “เราต้องการเป็นแก๊ง แล้วไอ้คำว่าแก๊งนี้คือต้องดูสนิทกันจริงๆ ต้องเล่นให้เข้าขากันจริงๆ ซึ่งก็ใช้เวลานานมาก เราอยากให้คนดูมาดูหนังเรื่องนี้ เพื่อที่จะได้เจอกับเรื่องราวของเด็กกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้ แต่เรามาทำความรู้จักกับพวกเขาใหม่หมดเลย มันจะอินไปตามเนื้อเรื่องของพวกนี้เอง”

ความโดดเด่นของตัวพระเอก ตี๋ คือ ต้องตัวเล็ก หรือเตี้ยนั่นเอง มักจะถูกมองข้ามไปตลอด และไฮไลท์ต้องเป็นคนขี้น้อยใจ อยากให้เพื่อนสนใจเป็นปมในใจเล็กๆ แต่จะต้องเป็นคนฉลาด โดยผู้กำกับมะเดี่ยวถึงกับกุมขมับด้วยความที่กว่าจะหาคนแสดงลักษณะแบบนี้ได้นั้นแคสกันแล้ว แคสกันอีกก็ยังไม่เจอคนที่ใช่และเหมาะสม คนที่จะมาสวมบทตี๋ จะต้องหน้าตาน่ารัก แต่ต้องไม่หล่อจนเกินไป แสดงดี มีความสามารถ ร้อง เต้น ครบถ้วน “โอ้ว…โห นานพอสมควร

กว่าจะหาคนที่เหมาะสม จนเมื่อมาเจอน้องเฟียต พัทธดนย์ และเราเห็นเขาชอบอัดคลิป เฟียตเขาถ่ายคลิปตัวเองร้องเพลง นี่แหละมันใช่เลย เราต้องการเด็กที่มีประสบการณ์ร่วมในการถ่ายคลิปอยู่แล้วด้วย เพราะเขาจะเข้าใจว่าตัวละครมันทำไปเพื่ออะไร มันทำอะไรกันอยู่”

ด้านหนุ่มที่จะมาสวมบทของ โอ๊ต หนุ่มหล่อเดือนโรงเรียน สูง หล่อ ขาว ตี๋ รวย นั้น แว๊บแรกเลยที่เข้ามาในหัวของผู้กำกับทันที คือ เจเจ กฤษณภูมิ จะเป็นใครอื่นไม่ได้ ด้วยความหล่อเตะตาขนาดนี้ ตั้งแต่ตอนมาแคสหนังเรื่องโฮมฯ นั่นคือครั้งแรกที่ได้พบกับเจเจ มะเดี่ยวเล่าว่า “ก่อนหน้านั้นเรื่องโฮมฯ เจเจมาแคสบท บีม แต่ที่ไม่ได้เพราะ หล่อเกินไป (555) พอมาเรื่องนี้มันใช่และเหมาะกับเจเจมาก กับบทเด็กผู้ชายในฝันของสาวๆ ม.ปลาย สมาร์ทดูดี ไม่ได้เรียบร้อยมาก มีความห้าวในตัวพอควร มันเหมาะเพราะชีวิตจริงของเจเจก็เป็นแบบนั้น อยู่เชียงใหม่มีสาวตามกรี๊ด จะเดินไปไหนก็ พี่เจเจกรี๊ด……..ด”

แจ็ค กิตติศักดิ์ ผู้พิชิตบทของ โมน กับคาแร็คเตอร์ เงียบๆ ไม่ค่อยพูด เพื่อนเฮไหนก็เฮนั่นด้วยตลอด แม้บทบาทที่ได้รับจะแตกต่างจากตัวตน แต่จากผลงานก่อนหน้านี้ Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ มะเดี่ยวก็เล็งเห็นความสามารถของเขา “ทีแรกเราลองให้แจ็คแคสบทของ โอ๊ต ก่อน แต่ที่ไม่ได้เลือกแจ็คนั้น เพราะความหล่อที่ยังมาไม่ถึง (555) จึงเปลี่ยนตัวน่าจะดีกว่า แต่บทของโมนก็ไม่ธรรมดานะ ซึ่งมันเหมาะกับคนไม่ธรรมดาอย่างแจ็คนี่แหละ เราเลือกแจ็คเพราะเขาได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่าเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ และอยากให้รอดูความเซอร์ไพรส์ของแจ็คในเรื่องนี้”

และหนุ่มคนสุดท้ายที่จะมารับบท “ม่อน” เด็กผู้ชายฮอร์โมนพลุ่งพล่าน เป็นพวกทะลึ่ง ลามก ตลก กวนตีน พูดเยอะพูดเก่งปากดี ขี้บ่น ก็คว้าตัว ปลื้ม ปุริม มาจากการเดินผ่านหน้าออฟฟิศสตูดิโอคำม่วน ระหว่างกำลังโดดเรียนนั่นเอง เพราะความมีเสน่ห์ น่ารัก แม้จะไม่เคยผ่านงานแสดงใดๆมาก่อนเลย มะเดี่ยวเล่าว่า “ปลื้มตอนมาแคสตั้งใจมาก สั่งให้ทำอะไรก็ทำ ถึงทำไม่ได้แต่ก็พยายามที่จะทำให้ดีที่สุด เช่น บอกให้เขาไปเต้น ซึ่งเขาเป็นคนไม่เคยเต้นเลยแต่เขาก็ทำให้ดีที่สุดของเขาและตัวตนของปลื้มแตกต่างจากบทม่อนอย่างสิ้นเชิง อะไรที่ม่อนเป็นมันตรงข้ามกับปลื้มทุกอย่าง แต่น้องก็พิสูจน์ให้เราเห็นถึงความการแสดงว่าเขาทำออกมาได้ดี”

นอกจาก 4 หนุ่มหล่อหน้าใส ยังมีนักแสดงร่วมสร้างสีสันให้กับ เกรียน ฟิคชั่น อาทิ (มิว) ลักษณ์นารา เปี้ยทา, (กิ๊บซี่)วนิดา เติมธนาภรณ์, (ตั๊ก) บริบูรณ์ จันทร์เรือง, (ป๋อมแป๋ม เทยเที่ยวไทย)นิติ ชัยชิตาทร, (โบ้ท เดอะเยอร์ส)นิธิศ วารายานนท์ และ (เจน) เจนจิรา จำเนียรศรี ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความสนุกสนานในครั้งนี้ ซึ่งล้วนแต่เป็นคาแร็คเตอร์ที่มีบทบาทสำคัญ และมีอิทธิพลส่งผลกระทบต่อแก๊งของ 4 หนุ่มในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

กิ๊บซี่ วนิดา สาวเซ็กซี่ เสน่ห์แรงสูง เมื่อมะเดี่ยวนั่งจ้องทีวีรายการเกมโชว์ ที่เธอกำลังนั่งเริ่ดๆ ให้หนุ่มในรายการทายใจ จนทำให้มะเดี่ยวต้องยอมสยบความสวยของเธอ ถึงขั้นหาเบอร์โทรศัพท์รีบกดเบอร์โทรชวนร่วมแสดงหนังครั้งนี้อย่างด่วน โดยเล่าว่า “กิ๊บซี่น่ารัก เราก็เคยเห็นผลงานเขามาตลอด พอมาเรื่องนี้ บทของทิพย์ จะต้องมาเป็นพี่สาวของตี๋ เป็นพี่สาวที่ไม่รู้จักโต และมักจะทะเลาะกันบ่อย เราเห็นความสามารถของกิ๊บซี่ ก็เลยชวนเขามาแสดง ซึ่งเขาถ่ายทอดอารามณ์ของ ทิพย์ และความเป็นผู้หญิงที่รู้สึกผิดกับอะไรบางอย่าง จริงๆเหมือนจะตลกแต่ก็มีความเป็นดราม่าเหมือนกัน กิ๊บซี่เองก็ชอบบทนี้ พอเขาชอบ เขาจะอินและถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีมาก (ยิ้ม)” กิ๊บซี่ วนิดา ศิลปินและนักแสดงสาวมากความสามารถ เล่าถึงตอนตัดสินใจตอบรับงานแสดงทันทีโดย แม้จะยังไม่เห็นบทก็ตาม แค่รู้ว่าผู้กำกับเป็นมะเดี่ยว เธอก็พร้อมจะร่วมงานได้ทันที “จริงๆแล้วกิ๊บติดตามผลงานของพี่มะเดี่ยวอยู่แล้ว ก็รู้สึกว่าผู้กำกับคนนี้น่าสนใจ เป็นผู้กำกับคุณภาพ ถึงแม้ว่าไม่ใช่ผู้กำกับที่อยู่มาหลายสิบปี แต่เขาเป็นผู้กำกับที่มาใหม่แล้วมาแรง ผลงานเขาก็เป็นที่ยอมรับด้วย”

และหนุ่มหล่อสุดเท่ ที่ถูกเลือกมารับบทแฟนหนุ่มของทิพย์ (กิ๊บซี่ วนิดา) ก็ตกเป็นของ โบ้ท เดอะเยอร์ส ที่เพิ่งคว้าตำแหน่งหนุ่มคลีโอ ปีล่าสุด (2012) มาครอง มะเดี่ยวเล่าว่า “ที่เลือกโบ้ท เพราะว่าเขาเป็นคนเงียบครึม ดูหล่อ เหมาะกับบทของเขตต์มาก พอเราได้ร่วมงานกันจริงๆแล้วตัวตนของโบ้ทเป็นคนตลกใช่เล่นเลยล่ะ” ด้าน โบ้ท นิธิศ สลัดคราบหนุ่มนักดนตรีมือเบสแห่งวง เดอะ เยอร์ส มาแสดงภาพยนตร์ของผู้กำกับมะเดี่ยว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสร่วมงานกัน เล่าว่า “สำหรับการร่วมงานกับพี่มะเดี่ยว ผมยกให้สุดๆ ไปเลย อย่างตอนเข้าฉากก็จะมีแอคติ้งโค้ชมาสอนอยู่แล้ว ว่าต้องเล่นแบบนี้นะ และพี่มะเดี่ยวเขาก็จะช่วยทำให้ดูด้วยนะ แต่พี่เขาเล่นไปร้อยยี่ คือเล่นเกินไปไหนก็ไม่รู้ครับ แล้วเขาก็มาบอกว่าเมื่อกี้พี่เล่นเกินไปนะ เอาออกหน่อยเหลือแค่แปดสิบพอ มันก็ตลกดี”

บทนางเอกสาวสวย พลอยดาว ดาวเด่วของโรงเรียน มะเดี่ยวก็ได้วางตัวมาเรียบร้อย พร้อมกับลงมือเขียนบทนี้ขึ้นมาเพื่อ มิว ลักษณ์นารา โดยเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยร่วมงานละครเรื่อง วนาลี มาแล้ว “เราเหมือนเป็นผู้กำกับคนแรกในชีวิตน้องมิว สอนกันมาเยอะมาก ตั้งแต่น้องยังแสดงอะไรไม่เป็นเลยจนเล่นละครได้จบเรื่อง น้องมิวเป็นเด็กดี เป็นคนนิสัยน่ารักแล้วจริงๆ เขาเป็นคนมีของ มีความสามารถทางการแสดง พอมีหนังเราก็นึกถึงเธอเป็นคนแรกเลยว่าต้องมาเล่นให้พี่นะ บทนี้ถูกเขียนมาเพื่อน้องมิวโดยเฉพาะ” ด้าน มิว ลักษณ์นารา เล่าถึงการเตรียมตัวกับบท พลอยดาว และการแสดงหนังครั้งแรกในชีวิตที่ต้องนำพื้นฐาน ยิมนาสติก เต้นบัลเลย์ เต้นแจ๊ส มาร่วมแสดง โดยเล่าว่า “ตอนแรกยังไม่รู้ว่ารับบทเป็นอะไร พี่มะเดี่ยวแค่เกริ่นให้ฟังว่า เป็นผู้หญิงที่สวย ต้องเก่งทุกเรื่อง เป็นดาวโรงเรียน ตอนนั้นก็คิดว่างานนี้เราคงต้องหนักมากแล้วแหละ เตรียมใจรับศึกหนักครั้งนี้ มีไปเรียนแอคติ้งสำหรับทางหนังด้วย เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังเรื่องแรกของมิว ก็เลยต้องมีการปรับตัวนิดนึง พื้นฐานการเต้นพอมีบ้างเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับเก่งอะไรขนาดนั้น บัลเลย์ แจ๊ส เน้นท่าสวยงาม พริ้วๆ ในแบบฉบับของพลอยดาว เพราะในเรื่องนี้ต้องแสดงละครเวทีถึง 2 เรื่องด้วย”

มะเดี่ยวเล่าต่อถึงคาแร็คเตอร์ที่ขาดไม่ได้เลยของเรื่องนี้ “ยังมีบทของ อ.เสน่ห์ ที่จะสร้างสีสัน เจาะจงเลือก ตั๊ก บริบูรณ์ ด้วยความที่เขาเป็นคนอารมณ์ดี ออกแนวบ้าบอ เราเคยร่วมงานกันมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องนั้นเราให้ตั๊กรับบทดราม่า และเราก็ได้ค้นพบว่า ตั๊กเอ้ย! อย่าเปลี่ยนแปลงตัวตนเล้ยย…บทนี้จึงเหมาะสมกับเขามากอาจารย์ที่จะเพี้ยนๆ และไปหลงรักพี่สาวของนักเรียนตัวเอง นอกจากนี้ก็ยังมีบท อ.แดงต้อย รับบทโดยพี่ป๋อมแป๋ม เลือกเพราะเราชอบดูรายการเทยเที่ยวไทยของเขา (555) ชอบความกล้า ชอบความตลกของเขา ตลกแบบไม่รู้ตัว เหวี่ยงอย่างตุ๊ด ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ พี่ป๋อมแป๋มถ่ายทอดความเกรี้ยวกราดได้สนุกมากอยากให้ติดตามชม อ่อ! อีกคนนึงน้องเจน ก็มาร่วมแสดงในเรื่องนี้ กับบท ก้อย เพื่อนผู้หญิงตลกๆ ตัวทำฮา แล้วน้องเจนก็ตลกดีตัวเขาเองก็เป็นแบบนั้นด้วย เขาเป็นนักแสดงที่มีฝีมือควรที่จะได้รับบทดีๆ แล้วบทก้อยในเรื่องนี้อยู่ดีๆ ก็ต้องโผล่เข้ามาในชีวิตของเด็กพวกนี้อยู่ประมาณ ม.5 ปลายๆ เป็นบทที่น่ารักและน่าจดจำ และน้องเจนก็ทำได้ดีอีกแล้ว (ยิ้ม)

เตรียมฝึกหนัก

แน่นอนวัยรุ่นอย่างเราหากคิดจะทำตัวเกรียน มันคงต้องมีขั้นตอนการเตรียมตัว ฝึกฝนการแสดง การเต้น กันก่อน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่คิดเอาไว้เลย โดยเฉพาะกับนักแสดงหน้าใหม่ที่ ผู้กำกับมะเดี่ยวต้องเคี่ยวเข็ญกันอย่างหนัก งานนี้ไม่ธรรมดาเช่นกัน เหมือนจับปูใส่กระด้ง จึงต้องกำราบด้วยการหาแอ็คติ้งโค้ชโคตรเกรียนมาสอนทั้งการแสดง และการเต้น เป็นระยะเวลานานหลายเดือน กว่าจะออกมาเกรียนกันได้นั้น ถึงขั้นน้ำตาซึมเบ้ากันเลยทีเดียว

โดนสั่งให้ทำตัวเป็นตุ๊ด หากไม่มีสมาธิพร้อมจะท่องบท จะต้องเจอดีแบบนี้ หันหลังตบก้นควักมือเรียกให้คนมาดูกันซะ แล้วคนที่ต้องก้มหน้ารับโทษคนนั้นก็คือ เจเจ กฤษณภูมิ “โดนหนักไม่น้อยครับโดนสั่งให้วิ่งกลางสนามบาสโรงเรียน แล้วก็ตะโกนบทออกมาเสียงดังๆ และคนก็เยอะมาก หากเสียสมาธิ ไม่ตั้ง