What to Expect When You're Expecting

    สร้างจากหนังสือชุดเบสเซลเลอร์ของ New York Times เรื่องราวที่ทั้งตลกและประทับใจของคน 5 คู่ ที่ชีวิตมาพาดผ่านกัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการตั้งครรภ์ What to Expect When You're Expecting คือหนังโรแมนติก-คอมเมดี้รวมนักแสดงคุณภาพอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น คาเมรอน ดิแอซ, เจนนิเฟอร์ โลเปซ, เอลิซาเบธ แบงก์ส, บรุ๊คลิน เด็กเกอร์, แอนนา เคนดริก, เชซ ครอว์ฟอร์ด, แมทธิว มอร์ริสัน, เดนนิส เคว็ด, คริส ร็อค, โรดริโก้ ซานโตโร และ โจ แมนเกนเนโล่

          จูลส์(คาเมรอน ดิแอซ) โค้ชฟิตเนสทางโทรทัศน์ ต้องตื่นเต้นสุดชีวิตเมื่อเธอพบว่าตัวเองตั้งท้อง ในขณะที่ อีวาน (แมทธิว มอร์ริสัน) แฟนหนุ่มของเธอพบว่า หน้าที่การงานของพวกเขาไม่มีเวลาสาหรับเด็ก, เวนดี้ (เอลิซาเบธ แบงก์ส) นักเขียนหนังสือสาหรับคุณแม่ ต้องกลายเป็นคุณแม่เสียเอง ในขณะที่ แกรี่ (เบน ฟัลโคเน่) สามีของเธอก็ต้องเจอความกดดันจากพ่อ เมื่อ สกายเลอร์ (บรุ๊คลิน เด็กเกอร์) ภรรยาวัยละอ่อนกาลังจะมีลูกแฝด, ฮอลลี่ (เจนนิเฟอร์ โลเปซ) ช่างภาพต้องการเดินทางรอบโลก และรับเด็กมาเป็นลูกบุญธรรม แต่ เนท (โรดริโก้ ซานโตโร) สามีของเธอก็ไม่แน่ใจกับเรื่องนี้ เขาตัดสินใจเข้ากลุ่มช่วยเหลือตัวเอง ที่บรรดาคุณพ่อมือใหม่มาระบายความรู้สึก และคู่แข่งรถขายอาหาร โรซี่ (แอนนา เคนดริก) และ มาร์โค (เชซ ครอว์ฟอร์ด) ก็จับพลัดจับพลูนอนด้วยกัน มันจะเป็นยังไงเมื่อลูกคนแรกเกิดก่อนเดทครั้งแรก?

เกร็ดภาพยนตร์

 What to Expect When You're Expecting เป็นหนังสือที่เขียนโดย ไฮดี้ เมอร์คอฟ ที่แนะนาเกี่ยวกับการรับมือกับการตั้งครรภ์ โดย The New York Times ได้เรียกหนังสือเล่มนี้ว่า “คัมภีร์ไบเบิ้ลสำหรับคนตั้งครรภ์" โดยถูกขายไปแล้วมากกว่า 17 ล้านเล่มในอเมริกา โดยหนังสือพิมพ์ USA Today ก็ได้ทาโพลสารวจว่าผู้หญิงท้องกว่า 93% อ่านหนังสือเล่มนี้ และมันก็ถูกจัดเป็นหนึ่งในหนังสือที่มีผลกระทบต่อสังคมในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา โดยหนังสือก็ยังมีภาคต่อออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น What to Expect: The First Year, What to Eat When You're Expecting, What to Expect Before You're Expecting และ What to Expect: the Second Year โดยซีรี่ย์ What to Expect ทั้งหมดก็ขายไปได้แล้วกกว่า 34 ล้านเล่มเฉพาะในอเมริกา และถูกแปลไปแล้วมากกว่า 30 ภาษา

 คาเมรอน ดิแอซ หนึ่งในนักแสดงขวัญใจของฮอลลิวู้ด ก็ได้พูดถึงมุมมองของเธอกับเรื่องราวในหนังว่า"ฉันคิดว่านี่คือหนังที่เชิดชูความเป็นแม่ พวกเรามีเรื่องราวมากมายและหลากหลายสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ทั้งกาลังตั้งท้องหรือว่าต้องการมีลูก พวกเราใช้เรื่องราวที่เป็นเคสที่อยู่ในหนังสือ และนามาขยายเป็นเรื่องราวที่เข้ามาพาดผ่านกัน ในขณะเดียวกันเราก็ยังไม่ลืมพูดถึงมุมมองของผู้ชายว่า พวกเขารับมือยังไงกับฮอร์โมนที่ขึ้นลงเร็วกว่ารถไฟเหาะของพวกผู้หญิงท้อง (หัวเราะ)